วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เขื่อนขุนด่านปราการชล (เขื่อนที่ยาวที่สุดของเมืองไทย)


เขื่อนขุนด่านปราการชล สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดกับประชาชนชาวนครนายก และจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ในหลาย ๆด้านเช่น เป็นแหล่งน้ำและระบบชลประทานขนาดใหญ่ สามารถเก็บกักน้ำและจัดสรรน้ำอย่างเป็นระบบสำหรับพื้นที่ทำการเกษตรรวมทั้งแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคของจังหวัด ,บรรเทาอุทกภัยแก่พื้นที่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำนครนายก , เกษตรกรได้รับประโยชน์จากโครงการประมาณ 5,400 ครัวเรือน ,ใช้น้ำชลประทานชะล้างดินเปรี้ยวจนเหมาะสมแก่การใช้เพาะปลูก ได้มากขึ้น , เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและแหล่งประมงน้ำจืด , เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ ช่วยให้ เศรษฐกิจของจังหวัดนครนายกขยายตัวมากขึ้นทำให้ ประชาชนมีรายได้เพื่อนำไปเลี้ยงชีพอย่างพอเพียง ถือว่ามีคุณประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน

เนื่องด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำ และระบบชลประทานขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บกักน้ำและจัดสรรน้ำอย่างเป็นระบบให้พอเพียงกับความต้องการของกิจกรรมทุกประเภทภายในลุ่มน้ำนครนายกและพื้นที่ใกล้เคียง ดังนั้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2536 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานพระราชดำริให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างเขื่อนคลองที่ด่านฯ และได้ดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2542 โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี

 

 

 

 

 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทาน  ชื่อเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งเป็นชื่อพระราชทานที่ได้นำตำนานเจ้าพ่อขุนด่านในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อพม่าบุกไทยชาวเขมรลักเสบียง รังแกคนไทย หัวหน้าที่ชาวบ้านเรียกว่าขุนด่าน จะใช้ม้าเร็วรับส่งข่าวรายงานไปยังกรุงศรีอยุธยาเพื่อให้ทราบ บ่งบอกได้ถึงความกล้าหาญเสียสละและช่วยปกป้องพื้นแผ่นดินไทย
 และเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2544 พระบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์เขื่อนคลองท่าด่านฯ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเป็นสิริมงคลสูงสุดแก่พสกนิกรชาวจังหวัดนครนายก
ตัวเขื่อน ประกอบด้วยเขื่อนหลักและเขื่อนรองสร้างด้วยคอนกรีตบดอัด ปัจจุบันเป็น เขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความสูง (สูงสุด) 93 เมตร รับน้ำที่ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำ มีความจุ 224 ล้าน ลบ.ม.
         นอกจากเป็นประโยชน์ มีน้ำในการทำเกษตรกรรม การอุปโภคบริโภค แก้ปัญหาดินเปรี้ยว เป็นล่งเพาะพันธุ์ปลา และบรรเทาอุทกภัยแล้ว ยัง เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ของนครนายก เราสามารถชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จากบริเวณสันเขื่อน จะเห็นทิวทัศน์ด้านหน้าเขื่อนเป็นพื้นป่าและเทือกเขาสลับซับซ้อนในอุทยานเขาใหญ่ชมอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลทอดยาวมาจากต้นน้ำที่น้ำตกเหวนรกมีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร  และด้านหลังเขื่อนก็สามารถชมทิวทัศน์เมืองนครนายกได้อย่างชัดเจนและสวยงามเป็นอย่างมาก
 
 
 
 
 
         ดังนั้นเราพามาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตอัดบดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก มองชมวิวสวย ๆ ของเมืองนครนายกบนสันเขื่อนที่สูงถึง 90 เมตร พร้อมกับสัมผัสกับอากาศดี ๆ ที่สุดแสนจะเย็นสบาย เขื่อนขุนด่านแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยและเป็นเส้นทางล่องแก่งลำน้ำนครนายกที่สนุกตื้นเต้นเร้าใจเมื่อเราขับรถไปในเส้นทางก่อนถึงเขื่อนเราก็สามารถทองเห็นสันเขื่อนที่สูงชันได้อย่างชัดเจนและเป็นวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง เหมือนตัวเขื่อนปกป้องเมืองนครนายกไว้ทั้งหมดสวยงามมาก เมื่อเราไปถึงตัวเขื่อนก่อนขึ้นไปด้านบนก็มีร้านบริการอาหารเครื่องดื่มมากมายคอยบริการอย่างเป็นกันเอง
         เมื่อเราขึ้นไปยังสันเขื่อนเราก็ได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบายจริง ๆ มีลมพัดโชยมาตลอดเวลา ชมวิวทั้งสองฝั่งสันเขื่อนได้อย่างสวยงาม ชมอ่างเก็บน้ำที่นิ่งสงบสาดแสงสีครามสะท้อนแสงระยิบระยับยามได้รับพลังจากแสงอาทิตย์สวยงามขนัดตา ชมวิวพื้นป่าเขาใหญ่อันเขียวขจีมองเห็นจนสุดตา มองวิวธารน้ำสายนทีที่กำลังรอดผ่านช่องขุนเขามายังสันเขื่อนรู้สึกได้ถึงความสบายผ่อนคลายเป็นที่สุด ด้านหลังเขื่อนเราก็ไปชมวิวของเมืองนครนายก ได้สวยงามในหลายจุด นอกจากนั้นยังมีบริการนั่งรถชมเขื่อนข้ามไปยังอีกฝั่ง มีพี่ ๆ คอยบรรยายเกี่ยวกับตัวเขื่อนให้เราฟังอีกด้วย ทำให้สนุกสนานและได้ความรู้ไปในตัว ราคาไม่แพงเลย แค่เที่ยว ละ 20 บาทต่อคนเท่านั้น มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่แวะเข้าไปชมความยิ่งใหญ่ของตัวเขื่อนและชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม บรรยากาศการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างสนุกสนานครื้นเครงสุด ๆครับ และในช่วงเดือน พฤศจิกายน น้ำในอ่างจะมีปริมาณมากจนมาถึงสันเขื่อนด้านบน เป็นวิวที่สวยงามมาก ๆ ถ้าใครอยากชมก็รอมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน
 
 
 
 
 
 
เขื่อนขุนด่านปราการชล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นอกจากตัวเขื่อนที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่แล้วยังตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งของจังหวัดนครนายก เช่นเส้นทางล่องแก่งลำน้ำนครนายก,น้ำตกนางรอง,วังตะไคร้ เราสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้อย่างสบายเพราะตั้งอยู่ในสถานที่ใกล้เคียงกัน หากท่านใดอยากล่องแก่งลำน้ำนครนายกก็เชิญติดต่อที่ชมรมล่องแก่งนครนายกตั้งอยู่ทางด้านหลังเขื่อนและบริเวณหลังเขื่อนคือจุดเริ่มต้นของการล่องแก่งนครนายก เป็นสายน้ำที่สามารถล่องแก่งได้อย่างสนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจได้ตลอดทั้งปี ใครอยากผจญภัยไปกับสายน้ำก็เชิญได้เลย ระยะทางในการล่องแก่งแต่ละช่วงประมาณ 2-7 กิโลเมตร    ติดต่อสอบถามที่ชมรมล่องแก่งนครนายกได้เลย
การเดินทาง มายังเขื่อนท่าด่านปราการชล ทางรถยนต์ จากตัวเมืองใช้เส้นทาง นครนายก– น้ำตกนางรองใช้ถนนหมายเลข 3049  ผ่านอุทยานวังตะไคร้ – เลี้ยวขวาเข้าถนนสู่ตัวเขื่อนได้เลย หรือถ้ามา จากกรุงเทพ ฯ เดินทางมาบนทางหลวงหมายเลข 305 หรือ 33 – นครนายก – น้ำตกนางรองใช้ถนนหมายเลข 3049 – ผ่านอุทยานวังตะไคร้ – เลี้ยวขวาเข้าถนนสู่ตัวเขื่อน ติดต่อสอบถามข้อมูลไดที่โทรสาร 0-3731-22860-3731-2282, 0-3731-2284, 0-3731-5664
 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น