วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สูดกลิ่นดินโคลน นั่งเรืออีแปะชมสวน เลียบคลองมหาสวัสดิ์



นาน ๆ จะได้สูดบรรยากาศกลิ่นโคนสาปควาย บรรยากาศแบบลูกทุ่งๆ เสียที ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไรครับ ใช้เวลาในการเดินทางแค่ 1 ชั่วโมงเศษๆ ผมก็มาถึงวัดสุวรรณาราม ขับรถเข้าไปในวัดเลยครับ เพราะเราต้องขึ้นเรือที่ท่าน้ำหน้าวัด เป็นโครงการที่ชาวบ้านและ อบจ.นครปฐมร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวชมวิถี ชีวิตชาวบ้านครับ


 เมื่อเคลียร์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเรียบร้อย (ผม+คู่หูผม 490 บาท) ก็ลงเรือเครื่อง หรือชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า เรืออีแปะ มีหลังคาให้ครับ แต่ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงเช้า แดดยังไม่จัดมาก จึงเอาหลังคาลง เพื่อให้มองเห็นบรรยากาศได้โดยรอบ มีพี่เหลิมรับหน้าที่เป็นพลขับให้เราในครั้งนี้ครับ เรือค่อย ๆ แล่น เพื่อให้พวกผมได้ชมบรรยากาศสองฟากฝั่งคลอง ผู้คนริมฝั่งคลองก็ทำกิจกรรมกันไป บ้างก็อาบน้ำ ซักผ้า ตกปลา เด็กๆ ก็พากันเล่นน้ำริมตลิ่ง แต่ขอคอนเฟิร์มครับว่าคลองที่นี่น้ำใสมาก ใสจนมองเห็นปลาหางแดงแหวกว่ายตามเรือมาเลยล่ะครับ 

นั่งมาได้สัก 10 นาที ก็ถึงจุดแรกครับ เป็นนาบัว (Lotus Farm) เป็นนาบัวของพี่อุษา มาเมืองบน ที่เข้าร่วมโครงการฯ ขนาด 20 ไร่ เป็นพันธุ์บัวแดงสายรุ้ง หรือ บัวฉัตรบงกช ดอกขนาดใหญ่มีสีแดง พี่เหลิมบอกว่าเป็นพันธ์ที่สามารถขายในบ้านเราและส่งออกนอกได้ ชาวบ้านที่นี่จึงนิยมปลูก ราคาขายดอกละ 2 บาท มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงบ้านเลยครับ และนักท่องเที่ยวยังสามารถพายเรือเก็บดอกบัวได้ด้วยนะครับ (ขายให้นักท่องเที่ยวดอกละ 2 บาท เช่นกันครับ) แต่ถ้าพายไม่ค่อยคล่อง ก็จะมีพลขับเรือแต่ละลำเป็นคนพายให้ครับ วันนั้นผมก็ได้พี่เหลิมนี่แหละครับช่วยชีวิต (แนะนำให้มาช่วงเช้าๆ ครับ เพราะอากาศจะได้ไม่ร้อน) พายไปก็ให้อาหารปลาตะเพียนไปครับ ได้ทั้งดอกบัวไปทำบุญ และทำทานด้วยการให้อาหารปลาอีกด้วย


ถัดไป เป็นสินค้า OTOP ของแม่บ้านในชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ ทั้งกล้วยตาก, มะม่วงสามรส, กะปิ และไข่เค็มไอโอดีน แต่ที่ขึ้นชื่อของกลุ่มแม่บ้านก็คือ ข้าวตังหน้าตั้ง ซึ่งทำมาจากข้าวกล้องหอมมะลิคัดอย่างดี เพื่อสุขภาพ ขอบอกว่ามีให้ชิมฟรีไม่คิดตังค์ครับ อย่างข้าวตังหน้าตั้ง เราสามารถทำกินเองได้ด้วยนะครับ แต่ถ้าชิมแล้วเกิดติดใจ จะซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน อันนี้ก็ไม่ว่ากันครับ


อิ่มท้องแล้วเราก็ไปนั่งรถอีแต๋น เพื่อช่วยย่อยกันหน่อยครับ (จุดที่สาม) ที่สวนผลไม้ของคุณลุงบุญเลิศ เศรษฐอำนวย ร่มรื่นด้วยต้นไม้ผลชนิดและพันธุ์ต่างๆ ทั้ง มะกอกน้ำ, ส้มโอ, กระท้อน, กล้วย, ขนุน, หมาก และมะม่วง สวนทั้งหมด 40 ไร่ ที่นา 20 ไร่ และสวนผลไม้อีก 20 ไร่ คุณลุงบุญเลิศเป็นพลขับรถอีแต๋นให้เลยนะครับ เวลาเลี้ยงนี่ขอบอกครับว่าหวาดเสียวสุดๆ ถ้าไม่ชำนาญทางอย่างคุณลุงที่วันๆ ขับมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 กว่ารอบ เป็นเวลา 11 ปี ขอบอกครับว่าโอกาสพลาดตกท้องร่องข้างสวนมีสูงมาก ท้องไส้ปั่นป่วนกับรถอีแต๋นแล้วคุณลุงก็ใจดีครับ จัดเตรียมผลไม้ให้ชิมกันด้วย ทั้งส้มโอ, มะม่วง, ขนุน ฯลฯ ทุกอย่างสดๆ จากต้น หวานและอร่อยมากๆ ครับ นอกจากผลไม้สดแล้ว ยังมีแบบแปรรูปให้เลือกช๊อปให้กระเป๋าฉีกกันเลย 

ตื่นเต้นและหวาดเสียวกับรถอีแต๋นกันแล้ว พี่เหลิมก็พาผมมาดูของสวย ๆ งาม ๆ บ้าง (จุดสุดท้าย) เป็นสวนกล้วยไม้คุณลุงชุบ คชเวช ส่วน ใหญ่ที่ปลูกเป็นพันธุ์หวาย ทั้งสีม่วง, ชมพู และขาว คุณลุงบอกว่าเป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการ ช่อที่ใหญ่และสมบูรณ์เต็มช่อจะส่งออกนอกได้ช่อละ 2-4 บาท แต่ช่อไหนที่ไม่สมบูรณ์จะขายในบ้านเรา กก.ละ 30 บาท แต่ใครที่อยากได้ไปลองเลี้ยงที่บ้าน คุณลุงชุบก็เพาะกล้วยไม้พันธุ์อื่น ๆ ไว้ให้เลือกเป็นเจ้าของในราคากระถางละ 120-200 บาทขอบอกว่าเต็มอิ่มจริงๆ ครับ ทั้งบรรยากาศ และความรู้ที่ผมได้รับจากคุณลุง, คุณพี่ผู้บอกเล่าประสบการณ์ ด้วยเงินแค่ 245 บาท แต่ที่คุ้มไปกว่านั้น คือ รอยยิ้ม และสีหน้ามีความสุขของคุณลุง, คุณพี่ เวลาตอบคำถาม ซึ่งยากนักที่จะเห็นได้จากสังคมของเราในทุกวันนี้ อย่างที่เค้าบอกครับว่า “อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา”

รายละเอียดเพิ่มเติม :

โครงการ “ล่องเรือชมสวนเลียบคลองมหาสวัสดิ์”หมู่ที่ 1 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐมเปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น.โทร. 034-297-152, 081-495-9091 (คุณมนูญ นราสดใส ผู้ใหญ่บ้าน)

ค่าใช้จ่าย :

- ค่าเรือลำละ = 300 บาท นั่งได้ 6 คน
- ค่าเข้าชม 4 สถานที่ ผู้ใหญ่ = 70 บาท/ คน, เด็ก = 40 บาท/ คน
- ค่านั่งรถอีแต๋นชมสวนผลไม้ = 50 บาท/ รอบ 

ที่มา: คนเดินทาง.com
website:
 http://www.konderntang.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น